การ Refinance บ้าน คุ้มจริงหรือ
คนไทยส่วนใหญ่มักจะกู้ซื้อบ้าน
มากกว่าการซื้อด้วยเงินสด และเมื่อกู้ไปสักพักหนึ่งแล้วประมาณ 3-5 ปี
ก็จะเตรียม Refinance ไปสถาบันการเงินอื่น ๆ
เพื่อต้องการให้ดอกเบี้ยถูกลง แต่ในการ Refinance จะมีค่าใช้จ่ายอื่น
ๆ ที่แฝงอยู่โดยธรรมชาติ จึงต้องพิจารณาประกอบกันให้ดี เพื่อจะได้มั่นใจว่า
การย้ายสถาบันการเงินแล้วได้ประโยชน์จริง ๆ
ในการ Refinance นั้น
จะต้องพิจารณาในหลาย ๆ
ประการแรกคือ
ความแตกต่างของดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้า ระหว่างที่เดิมกับที่ใหม่
เหตุที่ต้องคิด 3 ปีเพราะข้อกำหนดค่าปรับการ Refinance
มักจะกำหนดไว้ที่ 3 ปี
ประการที่
2
คือ ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ได้แก่ ค่าจดจำนอง 1% ของมูลจำนอง,
เบี้ยปรับกรณีปิดบัญชีสินเชื่อด้วยการ Refinance ก่อนกำหนด
(อ่านได้ในสัญญาเงินกู้)
ประการที่
3
คือ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น เช่น ค่าเบี้ยประกันชีวิตที่ใหม่,
ค่าประกันอัคคีภัย, ค่าใช้จ่ายเดินทางในการติดต่อประสานงาน
เมื่อได้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว
ให้นำค่าใช้จ่ายประการที่ 2 และ 3 มารวมกันแล้วเฉลี่ยออกเป็น 3 ปี จะได้เป็นค่าใช้จ่ายต่อปี บวกกลับไปที่ดอกเบี้ยเฉลี่ยของที่ใหม่
แล้วนำไปหาส่วนต่างกับที่เก่า จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจอีกครั้งว่าคุ้มค่าหรือไม่
เพราะบางครั้งคิดออกมาแล้ว ต่างกันเพียง 0.25% แต่ต้องเสียเวลามากมาย
อาจจะไม่คุ้มค่าก็ได้
ถ้าเป็นการ
Refinance เพื่อต้องการเงินเพิ่มไปปิดบัญชีสินเชื่ออื่น ๆ นั้น
จะให้ปรับที่ประการแรก
โดยการคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักด้วยยอดหนี้ของแต่ละบัญชี กับ ดอกเบี้ยที่ใหม่
ถ่วงน้ำหนักดอกเบี้ยเฉลี่ยของแต่ละวงเงิน แทน
แต่บางคนอาจจะให้ประเด็นเรื่องดอกเบี้ยเป็นประเด็นรอง
แต่คิดเรื่องค่างวดและกระแสเงินสดเป็นประเด็นแรกก็ได้
ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์หลักของแต่ละคน
นายพากเพียร